ชาคือเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
อัพเดทล่าสุด: 16 ส.ค. 2025
37 ผู้เข้าชม
ซึ่งแต่ละชนิดก็มีกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยพื้นฐานแล้ว ล้วนมาจากต้นชาชนิดเดียวกัน คือ Camellia sinensis ความแตกต่างของชาแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับกระบวนการแปรรูป โดยเฉพาะการทำปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ซึ่งทำให้ใบชามีสี รสชาติ และกลิ่นที่ต่างกันออกไป
1. การเก็บเกี่ยวใบชา (Harvesting)
การเก็บใบชาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของชาอย่างมาก ช่วงเวลาและวิธีการเก็บเกี่ยวจะแตกต่างกันไปตามชนิดของชาและภูมิประเทศที่ปลูก
ช่วงเวลา: ใบชาส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากเป็นช่วงที่ใบชามีคุณภาพดีที่สุด ใบอ่อนจะมีรสชาติที่นุ่มนวลและมีสารอาหารสูง การเก็บเกี่ยวสามารถทำได้หลายครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและชนิดของชาที่ปลูก
วิธีการเก็บ:
การเก็บยอด (Bud and a leaf): เป็นวิธีการเก็บยอดอ่อนและใบที่ติดกับยอด 1-2 ใบ ซึ่งเป็นส่วนที่ให้ชาคุณภาพสูงและมีรสชาติดีที่สุด
การเก็บด้วยมือ (Hand picking): เป็นวิธีที่นิยมที่สุดสำหรับชาคุณภาพสูง แรงงานจะเก็บยอดชาด้วยมืออย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ใบชาช้ำ วิธีนี้ช่วยให้สามารถคัดเลือกใบชาที่มีคุณภาพดีที่สุดได้
การเก็บด้วยเครื่องจักร (Machine harvesting): เป็นวิธีที่รวดเร็วและเหมาะสำหรับการผลิตชาในปริมาณมาก แต่คุณภาพของชาอาจจะไม่สม่ำเสมอเท่ากับการเก็บด้วยมือ
2. การผลิตชาชนิดต่าง ๆ
หลังจากเก็บเกี่ยวใบชาแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะกำหนดชนิดของชาที่เราคุ้นเคยกันดี
ชาขาว (White Tea)
ชาขาวเป็นชาที่ผ่านกระบวนการน้อยที่สุดและมักจะใช้ยอดชาอ่อนที่มีขนสีเงิน
การผึ่ง (Withering): นำยอดชาที่เก็บเกี่ยวมาผึ่งในที่ร่มหรือที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อลดความชื้นในใบชา
การอบแห้ง (Drying): นำใบชาที่ผึ่งแล้วไปอบแห้งด้วยความร้อนต่ำ เพื่อหยุดกระบวนการทางชีวภาพและป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ชาเขียว (Green Tea)
ชาเขียวเป็นชาที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการออกซิเดชัน
การหยุดกระบวนการออกซิเดชัน (Fixing): เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชาเขียวคงสีเขียวสดและไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
วิธีของจีน (Pan-firing): นำใบชาไปคั่วในกระทะด้วยความร้อนสูง
วิธีของญี่ปุ่น (Steaming): นำใบชาไปนึ่งด้วยไอน้ำ
การนวด (Rolling): นำใบชาที่ผ่านการหยุดกระบวนการออกซิเดชันแล้วมานวดหรือม้วน เพื่อทำลายผนังเซลล์และทำให้ใบชามีรูปร่าง
การอบแห้ง (Drying): อบใบชาให้แห้งเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
ชาอู่หลง (Oolong Tea)
ชาอู่หลงเป็นชาที่ผ่านกระบวนการออกซิเดชันบางส่วน ซึ่งอยู่ระหว่างชาเขียวและชาดำ
การผึ่ง (Withering): ผึ่งใบชาในที่ร่มหรือในอาคาร เพื่อให้ใบชาอ่อนตัว
การออกซิเดชัน (Oxidation): เป็นหัวใจสำคัญของการผลิตชาอู่หลง โดยจะนำใบชามาเกลี่ยบาง ๆ เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในระดับที่ต้องการ
การหยุดกระบวนการออกซิเดชัน (Fixing): เมื่อใบชาเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ที่แล้ว จะนำไปคั่วด้วยความร้อนเพื่อหยุดกระบวนการ
การนวด (Rolling): นวดหรือม้วนใบชาเพื่อสร้างรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์
การอบแห้ง (Drying): อบใบชาให้แห้ง
ชาดำ (Black Tea)
ชาดำเป็นชาที่ผ่านกระบวนการออกซิเดชันอย่างสมบูรณ์ ทำให้ใบชามีสีเข้ม
การผึ่ง (Withering): ผึ่งใบชาเพื่อลดความชื้น
การนวด (Rolling): นวดใบชาเพื่อให้ผนังเซลล์แตก ทำให้เอนไซม์และสารต่าง ๆ ในใบชาออกมา
การออกซิเดชัน (Oxidation): เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานที่สุด โดยจะนำใบชาที่นวดแล้วไปวางในห้องที่มีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันอย่างเต็มที่
การอบแห้ง (Drying): อบใบชาเพื่อหยุดการออกซิเดชันและไล่ความชื้น
หลังจากผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ใบชาจะถูกนำไปคัดขนาดและบรรจุลงในภาชนะที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติให้คงอยู่ต่อไป
1. การเก็บเกี่ยวใบชา (Harvesting)
การเก็บใบชาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของชาอย่างมาก ช่วงเวลาและวิธีการเก็บเกี่ยวจะแตกต่างกันไปตามชนิดของชาและภูมิประเทศที่ปลูก
ช่วงเวลา: ใบชาส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากเป็นช่วงที่ใบชามีคุณภาพดีที่สุด ใบอ่อนจะมีรสชาติที่นุ่มนวลและมีสารอาหารสูง การเก็บเกี่ยวสามารถทำได้หลายครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและชนิดของชาที่ปลูก
วิธีการเก็บ:
การเก็บยอด (Bud and a leaf): เป็นวิธีการเก็บยอดอ่อนและใบที่ติดกับยอด 1-2 ใบ ซึ่งเป็นส่วนที่ให้ชาคุณภาพสูงและมีรสชาติดีที่สุด
การเก็บด้วยมือ (Hand picking): เป็นวิธีที่นิยมที่สุดสำหรับชาคุณภาพสูง แรงงานจะเก็บยอดชาด้วยมืออย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ใบชาช้ำ วิธีนี้ช่วยให้สามารถคัดเลือกใบชาที่มีคุณภาพดีที่สุดได้
การเก็บด้วยเครื่องจักร (Machine harvesting): เป็นวิธีที่รวดเร็วและเหมาะสำหรับการผลิตชาในปริมาณมาก แต่คุณภาพของชาอาจจะไม่สม่ำเสมอเท่ากับการเก็บด้วยมือ
2. การผลิตชาชนิดต่าง ๆ
หลังจากเก็บเกี่ยวใบชาแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะกำหนดชนิดของชาที่เราคุ้นเคยกันดี
ชาขาว (White Tea)
ชาขาวเป็นชาที่ผ่านกระบวนการน้อยที่สุดและมักจะใช้ยอดชาอ่อนที่มีขนสีเงิน
การผึ่ง (Withering): นำยอดชาที่เก็บเกี่ยวมาผึ่งในที่ร่มหรือที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อลดความชื้นในใบชา
การอบแห้ง (Drying): นำใบชาที่ผึ่งแล้วไปอบแห้งด้วยความร้อนต่ำ เพื่อหยุดกระบวนการทางชีวภาพและป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ชาเขียว (Green Tea)
ชาเขียวเป็นชาที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการออกซิเดชัน
การหยุดกระบวนการออกซิเดชัน (Fixing): เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชาเขียวคงสีเขียวสดและไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
วิธีของจีน (Pan-firing): นำใบชาไปคั่วในกระทะด้วยความร้อนสูง
วิธีของญี่ปุ่น (Steaming): นำใบชาไปนึ่งด้วยไอน้ำ
การนวด (Rolling): นำใบชาที่ผ่านการหยุดกระบวนการออกซิเดชันแล้วมานวดหรือม้วน เพื่อทำลายผนังเซลล์และทำให้ใบชามีรูปร่าง
การอบแห้ง (Drying): อบใบชาให้แห้งเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
ชาอู่หลง (Oolong Tea)
ชาอู่หลงเป็นชาที่ผ่านกระบวนการออกซิเดชันบางส่วน ซึ่งอยู่ระหว่างชาเขียวและชาดำ
การผึ่ง (Withering): ผึ่งใบชาในที่ร่มหรือในอาคาร เพื่อให้ใบชาอ่อนตัว
การออกซิเดชัน (Oxidation): เป็นหัวใจสำคัญของการผลิตชาอู่หลง โดยจะนำใบชามาเกลี่ยบาง ๆ เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในระดับที่ต้องการ
การหยุดกระบวนการออกซิเดชัน (Fixing): เมื่อใบชาเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ที่แล้ว จะนำไปคั่วด้วยความร้อนเพื่อหยุดกระบวนการ
การนวด (Rolling): นวดหรือม้วนใบชาเพื่อสร้างรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์
การอบแห้ง (Drying): อบใบชาให้แห้ง
ชาดำ (Black Tea)
ชาดำเป็นชาที่ผ่านกระบวนการออกซิเดชันอย่างสมบูรณ์ ทำให้ใบชามีสีเข้ม
การผึ่ง (Withering): ผึ่งใบชาเพื่อลดความชื้น
การนวด (Rolling): นวดใบชาเพื่อให้ผนังเซลล์แตก ทำให้เอนไซม์และสารต่าง ๆ ในใบชาออกมา
การออกซิเดชัน (Oxidation): เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานที่สุด โดยจะนำใบชาที่นวดแล้วไปวางในห้องที่มีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันอย่างเต็มที่
การอบแห้ง (Drying): อบใบชาเพื่อหยุดการออกซิเดชันและไล่ความชื้น
หลังจากผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ใบชาจะถูกนำไปคัดขนาดและบรรจุลงในภาชนะที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติให้คงอยู่ต่อไป
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยสิ่งเร้า การหยุดพักเพื่อจิบชาเพียงครู่ อาจเป็นเหมือนการค้นพบ โอเอซิสแห่งความสงบ ในชีวิตประจำวันของคุณ บทความนี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่การอ้างสรรพคุณทางสุขภาพอันใดของชา แต่จะเชิญชวนให้คุณหันมาใส่ใจกับ 'ประสบการณ์' และ 'ช่วงเวลา' ของการดื่มชาอย่างแท้จริง
28 ก.ย. 2025
ในโลกที่วุ่นวายใบนี้ หลายคนมองหาพื้นที่เล็กๆ เพื่อพักผ่อนและเติมพลัง การจิบชาในสวนจึงเป็นมากกว่าแค่การดื่มเครื่องดื่ม แต่เป็นช่วงเวลาแห่งความสงบและการเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
24 ก.ย. 2025
ชาดอกบัวหลวงฉัตร ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่เป็นผลงานศิลปะที่เกิดจากความพิถีพิถันและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ดอกบัวหลวงพันธุ์ "ฉัตร"
18 ก.ย. 2025